ในยุคที่ผลิตภัณฑ์สกินแคร์มีมากมายจนนับไม่ถ้วน การจะหาตัวที่ใช่สำหรับตัวเองดูจะเป็นเรื่องยากกว่าที่เคย แต่ความจริงแล้วกุญแจสำคัญไม่ได้อยู่ที่การลองผิดลองถูกกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ไปเรื่อยๆ แต่อยู่ที่การกลับมาทำความรู้จักกับตัวตนที่แท้จริงของเราเอง โดยเฉพาะเรื่องของ "ผิว"

          ขอต้อนรับสู่ "Rediscover My Skin Harmony ปลดล็อกความเข้าใจ ปลดล็อกผิวใหม่ในแบบที่ตัวเองเป็น" นี่คือการเดินทางสู่ความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นว่าผิวของเราเป็นแบบไหน มีความต้องการอะไร และจะดูแลอย่างไรให้ตรงจุดที่สุด เพราะก่อนที่เราจะแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างยั่งยืน เราต้องรู้ก่อนว่าเรามีสภาพผิวแบบไหนกันแน่ การเริ่มต้นที่ถูกต้องจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ และทำให้ผิวคุณเปล่งประกายอย่างที่คุณต้องการ

 

สภาพผิวมีของคนเอเชียมีกี่แบบ

 

 

ผิวธรรมดา (Normal Skin)เป็นผิวที่มีความสมดุลดีที่สุด ไม่แห้งหรือมันจนเกินไป รูขุมขนมีขนาดเล็ก ผิวดูเรียบเนียนและมีเลือดฝาดดี ถือเป็นผิวในอุดมคติที่ดูแลได้ง่ายที่สุดครับ

ผิวแห้ง (Dry Skin) ผิวขาดความชุ่มชื้นและน้ำมันตามธรรมชาติ ทำให้รู้สึกตึง แห้ง และหยาบกร้าน อาจมีอาการลอกเป็นขุยได้ง่าย และมีโอกาสเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้มากกว่าผิวประเภทอื่น

ผิวมัน (Oily Skin) ผิวมีการผลิตน้ำมัน (Sebum) มากเกินไป ทำให้ผิวดูมันเงา โดยเฉพาะบริเวณทีโซน (หน้าผาก จมูก คาง) รูขุมขนกว้าง เห็นได้ชัด และมีโอกาสเกิดสิวอุดตัน สิวเสี้ยน และสิวอักเสบได้ง่าย

ผิวผสม (Combination Skin) เป็นผิวที่มีทั้งความมันและความแห้งอยู่ในบริเวณที่ต่างกันของใบหน้า โดยทั่วไปแล้วบริเวณทีโซน (หน้าผาก จมูก คาง) จะมีความมัน ส่วนบริเวณแก้มและขมับจะมีความแห้งหรือเป็นผิวธรรมดาครับ

ผิวแพ้ง่าย (Sensitive Skin) เป็นผิวที่ไวต่อสิ่งกระตุ้นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เครื่องสำอาง สภาพอากาศ หรือมลภาวะ ทำให้เกิดอาการระคายเคือง ผื่นแดง คัน หรือรู้สึกแสบได้ง่าย

 

ทริคของการทำความรู้จักกับสภาพผิวของตัวเอง

 

 

วิธีการสังเกตประเภทผิวเบื้องต้นง่ายๆ หลังล้างหน้า

1. ล้างหน้าให้สะอาด โดยใช้คลีนเซอร์สูตรอ่อนโยน ล้างหน้าให้สะอาด แล้วซับหน้าให้แห้ง

2. รอ 30 นาที อย่าเพิ่งทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวใดๆ และปล่อยผิวทิ้งไว้ 30 นาที

3. สังเกตผล ดังนี้

ผิวธรรมดา จะรู้สึกสบายผิว ไม่มีความแห้งตึงหรือมัน

ผิวแห้ง จะรู้สึกตึง เวลาขยับหน้า อาจจะเห็นเป็นขุยสีขาว ตามจุดที่แห้งมาก

ผิวมัน ผิวหน้ามันเงา โดยเฉพาะบริเวณจมูกและหน้าผาก

ผิวผสม บริเวณทีโซน หน้าผาก จมูก คาง จะมีความมัน แต่บริเวณแก้มแห้ง

 

การใช้สกินแคร์ที่เหมาะกับสภาพผิว

ผิวธรรมดา (Normal Skin) เน้นไปที่การ รักษาสมดุลและปกป้องผิว เช่น  เน้นการทำความสะอาดผิวหน้าเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยน ใช่ครีมบำรุงไม่หนักหรือเบาจนเกินไป

ผิวแห้ง (Dry Skin) เน้นไปที่การ เติมความชุ่มชื้นและเสริมเกราะป้องกันผิว ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นสูง เช่น กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid), เซราไมด์ (Ceramides) หรือกลีเซอรีน (Glycerin) เพื่อช่วยดึงและกักเก็บความชุ่มชื้น เป็นต้น

ผิวมัน (Oily Skin) ผิวประเภทนี้มีการผลิตน้ำมันมากเกินไป จึงเน้นไปที่การ ควบคุมความมัน เพราะมีโอกาสเกิดการอุดตันสูง โดเยลือกมอยส์เจอไรเซอร์เนื้อเจลหรือแบบ Water-based ที่ให้ความชุ่มชื้นแต่ไม่เพิ่มความมัน ใช้ผิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมขอไนอะซินาไมด์ (Niacinamide), ซาลิไซลิก แอซิด (Salicylic Acid), และซิงค์ พีซีเอ (Zinc PCA) สามารถควมคุมความมันบนใบหน้าได้

ผิวผสม (Combination Skin) ผิวประเภทนี้มีทั้งส่วนที่แห้งและส่วนที่มัน จึงต้อง ดูแลแบบผสมผสาน ด้วยการนำวิธีการระหว่างผิวแห้งกับผิวมันมาปรับใช้ เน้นการดูแลเฉพาะจุด ใช้ผลิตภัณฑ์ควบคุมความมันเฉพาะบริเวณทีโซน (T-zone) เช่น เซรั่มที่มีส่วนผสมของไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) และใช้ผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้นสำหรับบริเวณที่แห้ง เช่น เซรั่มกรดไฮยาลูโรนิก

ผิวแพ้ง่าย (Sensitive Skin) ผิวประเภทนี้ไวต่อสิ่งกระตุ้น สภาพผิวแพ้ง่ายจึงควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนในการทำความสะอาด บำรุง กันแดด แต่ควรเน้นไปที่การ ปลอบประโลมและเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงสารเคมีเพราะมันจะไปกระตุ้นการแพ้ได้ง่าย ส่วนผสมของออร์แกนิกจึงสำคัญมากเช่น ใบบัวบก (Centella Asiatica) หรือว่านหางจระเข้ (Aloe Vera)

 

ออร์แกนิกที่เหมาะกับแต่ละสภาพผิว

 

 

1. ผิวธรรมดา (Normal Skin)

ผิวประเภทนี้ต้องการการบำรุงที่สมดุลและเน้นการรักษาความชุ่มชื้นตามธรรมชาติไว้

โจโจ้บาออยล์ (Jojoba Oil) หรือ อาร์แกนออยล์ (Argan Oil) ซึ่งมีโครงสร้างคล้ายน้ำมันตามธรรมชาติของผิว ทำให้ซึมซาบได้ดีและไม่ทิ้งความมัน

สารสกัดจากดอกคาโมมายล์ (Chamomile)

น้ำมันดอกกุหลาบ (Rosehip Oil) ที่ช่วยปลอบประโลมและฟื้นบำรุงผิวให้ดูเปล่งปลั่ง

 

2. ผิวแห้ง (Dry Skin)

ผิวประเภทนี้ต้องการความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก เพื่อเติมเต็มและกักเก็บน้ำไว้ในผิว

เชียบัตเตอร์ (Shea Butter)

น้ำมันมะพร้าว (Coconut Oil)

น้ำมันอะโวคาโด (Avocado Oil) ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันผิวไม่ให้น้ำระเหยออกไป

สารสกัดจากว่านหางจระเข้ (Aloe Vera)

ไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) จากแหล่งธรรมชาติที่ช่วยดึงดูดความชุ่มชื้นมาสู่ผิว

 

3. ผิวมัน (Oily Skin)

ผิวประเภทนี้ต้องการส่วนผสมที่ช่วยควบคุมความมันโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง

ทีทรีออยล์ (Tea Tree Oil) ซึ่งมีคุณสมบัติต้านแบคทีเรียและช่วยลดการเกิดสิว

น้ำมันโรสแมรี่ (Rosemary Oil) ที่ช่วยปรับสมดุลผิว

สารสกัดจากวิชฮาเซล (Witch Hazel) ที่ช่วยกระชับรูขุมขน

โคลน (Bentonite Clay) สำหรับมาสก์หน้าเพื่อดูดซับความมัน

 

4. ผิวผสม (Combination Skin)

ผิวประเภทนี้ต้องการการดูแลที่แตกต่างกันในแต่ละบริเวณ

โจโจ้บาออยล์ (Jojoba Oil) 

น้ำมันเมล็ดองุ่น (Grapeseed Oil) ทาได้ทั่วใบหน้าโดยไม่ทำให้ส่วนที่มันเกิดการอุดตัน

ทีทรีออยล์ (Tea Tree Oil) ใช่ส่วนที่มีผิวมัน

เชียบัตเตอร์ (Shea Butter) ทาบริเวณหน้าแก้มที่มีความแห้งตึง

 

5. ผิวแพ้ง่าย (Sensitive Skin)

ผิวประเภทนี้ต้องหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองและเน้นส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมผิว

ใบบัวบก (Centella Asiatica) ที่มีคุณสมบัติช่วยลดการระคายเคืองและเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว

น้ำมันคาเลนดูลา (Calendula Oil) ซึ่งช่วยลดการอักเสบและผื่นแดง

สารสกัดจากข้าวโอ๊ต (Oatmeal)

สารสกัดจากดอกคาโมมายล์ (Chamomile Extract) มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบและช่วยให้ผิวที่ระคายเคืองรู้สึกผ่อนคลาย

สารสกัดจากชาเขียว (Green Tea Extract) มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง (Catechins) ที่ช่วยลดการอักเสบและอาการแดงของผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

 

สรุป

        การเริ่มต้นทำความรู้จักและเข้าใจสภาพผิวของตัวเองอย่างแท้จริงถือเป็นกุญแจสำคัญสู่การปลดล็อกการดูแลผิวที่เหมาะสม เพราะผิวแต่ละประเภทมีความต้องการที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น ผิวธรรมดา ที่ต้องการการรักษาสมดุล, ผิวแห้ง ที่ขาดความชุ่มชื้น, ผิวมัน ที่ต้องควบคุมน้ำมันและสิว, ผิวผสม ที่ต้องดูแลเฉพาะจุด, หรือ ผิวแพ้ง่าย ที่ต้องปลอบประโลมและเสริมเกราะป้องกัน เมื่อคุณทราบว่าผิวของคุณเป็นแบบไหน ก็จะสามารถเลือกผลิตภัณฑ์และขั้นตอนการดูแลที่ตรงจุดได้ง่ายขึ้น ทำให้การบำรุงผิวไม่สูญเปล่า และเผยผิวใหม่ที่แข็งแรง สุขภาพดีในแบบที่คุณเป็น